วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิธี แก้ง่วงยามบ่าย


10 วิธีแก้ง่วงยามบ่าย

เนื่องจากบังเอิญได้มีโอกาสอ่านนิตยสาร สุขภาพดี ฉบับเดือนกรกฎาคม 2551 พบว่ามีเรื่อน่าสนใจที่ควนนำมาเสนอหรือมาบอกกล่าวให้ท่านผู้ที่ยังไม่ได้อ่านให้ได้รับรู้และนำไปใช้ได้ หรือถ้านผู้ที่ได้อ่านบางท่านเห็นว่าดี ก็อาจจะไปอุดหนุนซื้อหนังสือเขาบ้าก็ได้นะครับ
คนจะง่วงมันห้ามยากนะคะ ยิ่งถ้าง่วงในเวลางาน อยากนอนก็ไม้ได้ จะทำงานก็ทำได้ไม่ดี คงต้องหาวิธีแก้ง่วงกันสักหน่อย….
ที่เรามักรู้สึกง่วงหลังจากกินอาหารมื้อกลางวัน เป็นเพราะระหว่างที่อวัยวะภายในกำลังย่อยหรือดูดซึมอาหาร เลือดส่วนใหญ่ถูกลำเลียงลงมาสู่อวัยวะส่วนล่าง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง การทำงานของสมองในช่วงนี้จะไม่ค่อยเฉียบไวเท่าที่ควร จนอาจทำให้งานชะงักได้ เราจึงนำเคล็ดลับแก้ง่วงยามบ่ายมาฝากกัน
1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต และหันไปกินอาหารที่มีโปรตีนและเส้นใยสูงแทน เช่นเวลาสั่งข้าวผัด ให้คนขายใส่ข้าวลดลง หรือก๋วยเตี๋ยวก็ใส่ผักเยอะๆ เส้นน้อนๆ
2. ลดปริมาณอาหารลง เพื่อให้ระบบการย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไป และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นพลังงานให้คุณ ถ้ากลัวไม่อิ่ม ให้เปลี่ยนไปกินปริมาณน้อยลงแต่ถี่ขึ้น
3. เดินย่อยหลังมื้อกลางวันประมาณ 5 นาที จะช่วยให้ระบบการย่อยทำงานดีขึ้นในเวลางาน หาโอกาสลุกเดินอย่างน้อยชั่วโมงละครั้งเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองและแขนขามากขึ้น
4. ลองเปลี่ยนมากินอาหารว่างที่มีประโยชน์อย่างไข่ต้ม โยเกิร์ต ธัญพืชต่างๆ (เช่นเมล็ดฟักทอง ถั่ว งา ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงประสาทและทำให้จิตใจแจ่มใส) งานวิจัยจากสหรัฐระบุว่า ถั่วหลายชนิดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแบคทีเรียที่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของโรคฟันผุ และยังสามารถประยุกต์ใช้กับโรคอื่นๆ ได้อีก เช่น กำจัดเชื้อโรคที่พบในสิว วัณโรคและโรคเรื้อน
5. หลีกเลี่ยงของว่างที่มีน้ำตาลสูงหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้งในช่วงสายและบ่าย เพราะยิ่งทำให้คุณเซื่องซึมไปกันใหญ่
6. เมื่อเริ่มรู้สึกอ่อนเปลี้ย (ง่วงระยะแรก) ลองดื่มน้ำสะอาดแก้วโตสักแก้ว พยายามจิบน้ำเปล่าตลอดวัน หรืออาจดื่มน้ำขิงก็ได้ถ้าอากาศเย็น
7. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดขึ้นเพื่อช่วยให้ระบบการย่อยทำงานดีขึ้น แถมยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้น (ลดความอ้วนได้อีกต่างหาก) มีสมาธิ และผ่อนคลายมากขึ้นด้วย
8. ถ้าคุณบริโภควิตามินรวมหรือวิตามินบีคอมเพลกซ์อยู่แล้ว ลองกินอาหารเสริมเหล่านี้พร้อมกับมื้อกลางวัน เพื่อให้ประโยชน์จากวิตามินช่วยบรรเทาความง่วงเหงาอีกส่วนหนึ่ง
9. นอนพักผ่อนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จำไว้ว่าถ้านอนไม่พอตอนกลางคืน ไม่ว่าอะไรก็ฉุดให้คุณตื่นยามบ่ายไม่ได้
10. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกทางที่ช่วยเติมพลังการทำงานให้คุณอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้คุณรู้สึกกระปี้กระเปร่า กระตือรือร้น ลองหาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง (ครั้งละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง) โดยอาจเริ่มจากการวิ่ง ว่ายน้ำ ฝึกโยคะและเดินเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น